ด้วยความที่โปรแกรมสำหรับการสร้างงานแอนิเมชันมีอยู่ด้วยกันหลากหลายทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเต็มที่ขึ้นอยู่กับว่าใครนิยมชมชอบเลือกใช้งานแบบไหนมากกว่ากัน รวมไปถึงฟังก์ชั่นเด่นๆ ของแต่ละโปรแกรมเองก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานทั้งหลายเป็นผู้ตัดสินใจว่าต้องการเลือกใช้งานโปรแกรมไหนมากที่สุด อย่างที่กล่าวไปว่าโปรแกรมทำแอนิเมชันแต่ละโปรแกรมก็จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกับโปรแกรมที่มีชื่อว่า Pencil2D ก็เป็นโปรแกรมทำงานแอนิเมชันอีกโปรแกรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานด้านนี้จำนวนไม่น้อย
Pencil2D โปรแกรมทำแอนิเมชันน่าสนใจ
Pencil2D เป็นโปรแกรมสำหรับการทำแอนิเมชัน 2D หรือ 2 มิติ มีชื่อเต็มว่า Pencil Animation ถ้าแปลตรงๆ ตัวก็คือการสร้างงานแอนิเมชันด้วยดินสอ จุดเด่นของการใช้ Pencil2D ก็คือจะทำให้คุณสามารถวาดภาพตัวการ์ตูนพร้อมกับนำไปทำเป็นภาพ 2D ได้โดยในโปรแกรม Pencil2D ก็จะมีเครื่องมือเครื่องใช้มากมายให้ได้เลือกสรรนำไปใช้งานอย่างเต็มที่ เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งตัวละครหรือตัวการ์ตูนที่ถูกวาดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามสามารถออกมาติดต่อกันเป็นจำนวนหลายภาพได้เพื่อสร้างงานแอนิเมชัน 2D เพื่อความสมบูรณ์แบบของงานมากที่สุด คล้ายกับว่าเครื่องมือของ Pencil2D เป็นเครื่องมือสำหรับโปรแกรมวาดภาพแบบมืออาชีพก็ไม่ปาน สามารถใช้งานเพื่อวาดได้ทั้งภาพแบบ Bitmap และภาพแบบวิคเตอร์กราฟิก ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเลือกใช้งานเครื่องมือพื้นฐานทั่วไปไม่ว่าจะเป็น การลากเส้น, การทำสี่เหลี่ยม, การทำส่วนโค้ง, งานฟรีสไตล์, ใส่พื้นหลังลงไปในภาพได้, ลบด้วยยางลบ, เทสี, ครอปเฉพาะส่วนที่ต้องการ, มีระบบการวาดรูปตามลำดับขั้นหรือการใช้งาน Layer เหมือนกับโปรแกรมอย่าง Photoshop ด้วย, สามารถเลือกปรับสีจากแม่สีได้อย่างละเอียด สาเหตุที่ต้องยกฟังก์ชั่นเหล่านี้ขึ้นมาเป็นจุดเด่นให้กับ Pencil2D นั่นก็เพราะว่าเราเองแทบจะไม่เคยเห็นโปรแกรมทำงานด้านแอนิเมชันหรือโปรแกรมวาดรูปใดๆ ก็ตามที่แจกฟรีแล้วให้ฟังก์ชั่นแบบจัดเต็มขนาดนี้ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac OS, Linux ทั้งหมดล้วนแล้วแต่นำ Pencil2D ไปใช้งานได้ทั้งสิ้น
อย่างที่กล่าวไปว่าจุดเด่นทั้งหมดจากการโหลด Pencil2D ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเงินให้กับโปรแกรมแต่งภาพสักบาทเดียว ยิ่งเป็นมือใหม่ในการทดลองทำงานแอนิเมชัน 2D ด้วยแล้วการเลือกใช้โปรแกรมนี้ถือว่าเป็นการลองมือชั้นดีโดยที่ยังไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ กับการซื้อโปรแกรมขั้นเทพมาใช้งาน คล้ายกับว่าเป็นครูที่สอนให้เราได้ลองผิดลองถูกแต่ก็สามารถนำไปใช้งานได้จริงแบบที่เผลอๆ อาจไม่ต้องเสียเงินซื้อเลยแม้แต่บาทเดียวก็เป็นได้